สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ Steemit ทุกคน
.......เราหวังว่า เพื่อนๆทุกคน คงจะสบายดีนะ วันนี้ ไม่รู่เป็นอะไร รู้สึก คิดถึงบ้าน
เก่า เพื่อนเก่าๆ.....ยิ่งคิด ยิ่งทำให้ ใจหาย เริ่มหายใจ ไม่ค่อยสะดวก เพราะเพื่อน
รักบางคน ก็จากไป อย่างไม่มีวัน หวนกลับมา........และแล้ว ความทรงจำ ของวัน
นั้นวันที่ โหดร้ายที่สุด ในชีวิตของเรา มันเริ่มกลับมา หลอกหลอน เราอีกครั้งเรา
พยายามที่จะลืม แต่ก็ไม่เคยทำสำเร็จ เลยสักครั้ง ที่แย่ที่สุดก็คือ ยังฝันเห็นเหตุ
การณ์ ของวันนั้น ถ้าคนเรา สามารถลบ ความทรงจำ ได้เหมือนกับ คอมพิวเตอร์
มันคงจะดีไม่น้อย....
.......เรายังจำได้ไม่เคยลืม วันนั้นอยู่ในช่วงปิดเทอม ระหว่าง ป. ๓ จะขึ้น ป.๔ ต้น
เดือนเมษายน เรากับเพื่อนๆ หมู่บ้านเดียวกัน นัดกันไว้ ตั้งแต่ตอนยังไม่ปิดเทอม
ว่าจะเข้าไป ฝั่งเขมร เพื่อเก็บผลละหมาก รากไม้ ทุกอย่าง ที่สามารถทานได้ แต่
มีเพื่อน จากหมู่บ้านอื่น ได้ยินเรื่องที่ พวกเรา นัดหมายกันไว้ จึงอยาก จะจอยกับ
พวกเรา เราจึงต้อง จำเป็นให้เขาไปด้วย ทั้งๆที่ในใจ ไม่อยากให้ ไปด้วยเลย......
.......หมู่บ้านเรา มีกันแค่ ๖ครอบครัว ใช่ค่ะ มันเล็กมากๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความสุข
สุขแบบพอเพียง ตามประสา คนบ้านนอกคอกนา มีเด็กๆรวมทั้งหมด ๑๘ คนอายุ
เริ่มตั้งแต่ ๒ - ๓ เดือน จนถึง ๑๔ - ๑๕ ปี กลางหมู่บ้านเราจะมี ต้นจามจุรี หรือ ต้น
สามง่าม ที่ใหญ่มากๆ พวกเราลองวัดดู โดยการใช้แขน ของพวกเรา โอบรอบต้น
สามคน ยังโอบ ไม่รอบต้นเลย! ใช้หลบจากลูกปืนใหญ่ได้ด้วย และใต้ร่มเงา ของ
ต้นจามจุรีก็คือสนามเด็กเล่น ประจำหมู่บ้าน และมีลำธารเล็กๆไหลผ่าน ที่พวกเรา
ช่วยกันขุด ยาวเกือบสิบกิโลเมตร จนถึงที่นา ทางใต้ เพราะนาข้าว ต้องการน้ำ.....
.......หลังจากปิดเทอม ได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ พวกเราก็เตรียมตัว เรากับเพื่อนผู้
ชายอีกหกคน เป็นรุ่นพี่ ป. ๖ สองคน ป.๔ สี่คน แต่ละคนมีย่ามเก่าๆและมีดประจำ
ตัว เราออกเดินทาง ข้ามถนน เพื่อไปฝั่งเขมร เดินไป คุยกันไป เล่นไปตามประสา
เด็ก พอเริ่มเดินลึกเข้าไป ในป่าทืบ รุ่นพี่ ก็ส่งสันญาณ ให้ทุกคนเงียบ พอพวกเรา
หยุดคุยกัน ป่าทั้งป่า ช่างเงียบเหลือเกิน ได้ยินแต่ เสียงจิ้งหรีด กับเสียงลม ที่กระ
ทบกับใบไผ่ เพื่อนที่ขอตามมาด้วยคงจะเริ่มกลัว เพราะไม่เคยข้ามไปฝั่งเขมรเลย
ไม่เหมือนกับ พวกเรา ที่ข้ามไปฝั่งเขมร เกือบทุกอาทิตย์ จึงชินกับป่า และบรรยา
กาศแบบนี้.....
......ประมาณ ๓-๔ ชั่วโมง ผ่านไปพวกเราเก็บผลไม้ ได้มากมาย หลากหลายชนิด
จนเกือบจะเต็มเป้ หรือย่าม รุ่นพี่ปีนต้นมะพร้าว ให้พวกเราดื่ม น้ำมะพร้าว แทนน้ำ
และปรึกษากันว่า จะกลับทันที ที่ดื่มเสร็จและหายเหนื่อยส่วนเพื่อนของเราอีกคน
เห็นต้นมะม่วง ที่อยู่ใกล้ๆ เขาว่าขอเวลาแป็บนึง เขารีบปีนอย่างรวดเร็ว พวกเราที่
เหลือจึงรอ ที่ใต้ต้นมะม่วง เพื่อเก็บมะม่วง ที่เพื่อนเรา โยนลงมา พวกเรา สนุกกัน
มากๆ ทุกครั้ง ที่ไปกัน เป็นกลุ่ม แบบนี้ สักพัก รุ่นพี่ ก็บอกให้ เพื่อนเรา ลงมา และ
เตรียมตัวกลับบ้าน.....
......ทุกคนเริ่มเดินทาง ส่วนเพื่อนที่อยู่บนต้นมะม่วง พอเขาลงถึงพื้น ก็เดินไปเก็บ
ลูกที่พวกเราไม่เห็น เราหันไปมองแว็บก็รู้ว่าเขากำลังจะตามมา แต่พอเราหันกลับ
จะเดินทางต่อ ก็ได้ยินเสียง บึ้ม!!! พร้อมกับเสียงร้อง โอ้ย!! เสียงระเบิดดังจนก้อง
ป่า ทำเราหูอื้อไปหมด ด้วยความตกใจ และตามสันชาตญาน เราทุกคนหมอบราบ
กับพี้นดิน เสียงมันใกล้มากๆ ทำให้เรา หูอื้อไปพักใหญ่ พอแน่ใจว่าไม่ได้โดนรอบ
ยิง จึงพากัน ค่อยๆลุกขึ้น ทีละคน สองคน ในใจเรา สงสัยมากๆ ว่าร้อง โอ้ย นั้นมา
จากไหน? หรือ เป็นเสียงของใคร? เราพยายาม ทำให้หู ได้ยินเสียง ให้ชัดขึ้น พอ
เริ่มจะได้ยิน เราก็เริ่ม มองหาเพื่อนๆ ด้วยความอยากรู้ และกลัวจนจับใจ เราได้ยิน
เสียงรุ่นพี่ ถามว่า "ทุกคน สบายดีมั๊ย? เป็นอย่างไร กันบ้าง?" และมีอีกเสียงแทรก
มา เสียงร้องครวญคราง ด้วยความเจ็บปวด ทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง วินาทีนั้น
เราไม่อยากจะเชื่อ สายตา ของตัวเอง จำได้ว่าตัวเองร้องออกไปว่า "ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ
มันต้องเป็นความฝันแน่ๆ!!!.......ทั้งเลือด ทั้งเศษเนื้อสดๆ เต็มไปหมด ทั่วบริเวรที่
เพื่อนคนที่ เพิ่งลงจากต้นไม้ เขาเหยียบระเบิด เข้าอย่างจัง.......เพื่อนทุกคนช็อค
รวมทั้งเรา ทำอะไรไม่ถูก รู้สึกว่าตัวชาไปหมด แล้วเสียง ของรุ่นพี่ ก็ตะโกนขึ้นว่า
"มาช่วยกันหามมัน ไปที่ถนนเร็วๆซิ!!" "โอ้ย! พระเจ้า ช่วยด้วย" เราโอดครวญอยู่
ในใจ นึกภาพของตัวเอง ตอนนั้น หน้าคงซีด จนไม่มีสีเลือดแน่ๆ สงสารเพื่อนจับ
ใจกลิ่นคาวเลือด เขาเสียเลือดมากๆ เราแทบจะเป็นลม กว่าจะหามเขามาถึงถนน
ได้ มันทุลัก ทุเลไปหมด และกว่าจะมีรถผ่าน ทุกวินาที มันช่างยาวนานเหลือเกิน
.........เกือบสิบนาที ผ่านไป เขาเริ่มไม่หายใจ ทุกคนต่างก็ ทำอะไรไม่ได้เลย และ
ในที่สุด ก็มีรถกระบะ ผ่านมา เป็นคนอีกหมู่บ้านหนึ่ง แต่เขาก็ พยายามช่วย อย่าง
เต็มใจ..........แต่ทุกอย่าง มันก็สายเกินไป เสียแล้ว เขาเสียเลือดมาก และพวกเรา
ก็ยังเด็กเกินไป ไม่รู้เรื่อง การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และทุกคนก็ช็อคจนทำอะไร
ไม่ถูก ทางกำนัลและผู้ใหญ่บ้าน สอบสวนพวกเราทุกคน อย่างหนัก ที่งานศพเรา
อยากจะ ตระโกนออกไปดังๆ "พวกเราก็แค่เด็ก มีใครอยากจะเห็นเพื่อน
ตายไปต่อหน้าฟะ!!!!!!!!!"
ขอบคุณที่ติดตามเรื่องราวของเราเสมอมา
Much Love @tookta
Dear All Steemians Friend.
I hope all of you will be fine today I'd a bad feeling getting homesick and
missed my old friends. The more I think, the more I feel uncomfortable
because that best friend had left without returning. The memory of that
cruelest day is back to haunt me again. Try to forget But it was not
successful at all. The worst thing is that I sill dream about the events of
that day if people can delete memories like a computer it would be good.
I still remember never forget. That day it was school holidays, between
3 to 4 grade. In the beginning of April, my friends and I from the same
village have been making the plan for the next weekend. To go to Khmer
side to collect all the fruits and whatever can be eaten. But there were
some friends from other villages Heard about our plan, so he wants to
join too. I've to except him but in my heart, I didn't want him to go with us.
In my village have only 6 families. Yes, it is very small but full of happiness.
There are 18 children in total. The age starts from 2 - 3 months up to 14 - 15
years old. In our village, there is a large tree. We used this tree to covered
from cannon and under the shade of the tree is a children playground.
And there are small streams flowing through. We helped each another dig
it's almost ten kilometers long till the rice fields at the south. About a week
after school holiday we were prepared to go to Cambodia side. We're seven
of us and we try to prepare things to get ready. We traveled across the road
to go to Khmer side. We talk and play with each other while we warking,
well we all just children. As we started walking deeper into the woods,
our older friend tells everyone to be quiet. When we stopped talking, the
woods were so quiet, but the sound of crickets and the sound of the wind
blow on bamboo leaves. The friends that wanted following us were afraid.
He never crossed over to Khmer side. Unlike us who crossed the Khmer
border. Almost every week, we are used to the forest and the atmosphere.
About 3-4 hours passed. We collect a variety of fruits.It is almost full
backpacks older climb coconut trees. Let us drink coconut water instead
of water. We'd decide to go home after we finished drinking. But one of
my friends sees the mango tree near him. He quickly climbed up so we all
have to wait for him. We wait for him under the mango tree and try to
correct all the mangoes that he'd throw down, we enjoy every time we
go as a group. The elder told us we have to get going back home. Everyone
starts the journey. The friend on the mango tree. He went down to the
ground and followed us. Then we hear the noise of an explosion. We all
squat on the ground. We are all tinnitus with shock. I try to get up and
try to think and clear my ears. The elder asks what's happening and if
anyone safe. And there is another voice moaning with pain. That second
I did not want to believe my own eyes, remembering that I called out.
No no no no no!!!! It can't be. It must be a dream. The whole blood is full
of smell and the fresh meat all over the place where the friend just came
down from the tree. He stepped into the landmine. Everybody shocked.
Then the elder shouted: "Let's help carry him to the street now!! Imagine
that moment I much be pale. Thinking oh God help us! My poor friends,
we all try to bring him to the street. We all arrived at the street, every
second seems so long. Now we're waiting for some car to pass by. For
about ten minutes, he almost stops breathing, everyone could not do
anything. And finally there was a pickup truck from another village,
and he tried to help. But everything was too late and he lost a lot of
blood. And we were too young to know about the first aid. And
everyone was shocked. The village headman and the mayor
Investigate all of us hard at the funeral. I want to shout at them.
"We're just a children who want to see best friends dead ha?"
Thank you for always following my story.
And feel free to correct my English.
I would appreciate it very much, to me every day still learning.
Much Love @tookta